การต่อสู้กับการค้าเนื้อสุนัขและแมว (DCMT) ของเรานั้นเริ่มต้นจากความสำเร็จในการยุติการค้าเนื้อสุนัขข้ามพรมแดนขนาดใหญ่ในภาคเหนือของประเทศไทย ต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ในปีพ.ศ. 2557 โดยปัจจุบันเรายังคงเดินหน้ากวาดล้างธุรกิจค้าเนื้อสุนัขและแมวในเอเชียอย่างต่อเนื่อง เพื่อยุติความทารุณกรรมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นเช่นเดียวกับวันแรกของการเริ่มโครงการ
เราดำเนินการร่วมกับผู้สนับสนุนจากทั่วทุกมุมโลกในการยุติการกระทำที่โหดร้ายนี้ ซึ่งยังคงมีให้เห็นอยู่ในประเทศต่าง ๆ
เกี่ยวกับธุรกิจค้าเนื้อสุนัขและแมวในทวีปเอเชีย
ธุรกิจค้าเนื้อสุนัขและแมวเป็นหนึ่งในปัญหาที่รุนแรงที่สุดด้านสวัสดิภาพสัตว์ในทวีปเอเชีย ภูมิภาคที่สวัสดิภาพสัตว์แทบจะไม่ได้รับการเหลียวแล จากข้อมูลที่สุนัขจำนวนมากถูกขโมยจากบ้าน จากเจ้าของ หรือถูกจับมาจากข้างถนน จากประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งมีแหล่งเพาะฟาร์มสุนัขเพื่อค้าเนื้ออีกด้วย รวมทั้งมีแหล่งเพาะฟาร์มสุนัขเพื่อค้าเนื้ออีกด้วย สัตว์เหล่านี้ถูกขนย้ายเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตรเพื่อถูกชำแหละอย่างโหดเหี้ยมเพียงเพื่อไปเป็นอาหาร
สภาพที่สุนัขอยู่ในฟาร์มเพาะเลี้ยง การขนส่งเดินทางที่แออัดและในที่สุดต้องถูกชำแหละ ล้วนแต่รุนแรงป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม สุนัขเหล่านี้ไม่ได้ถูกฆ่าอย่างสัตว์บริโภค พวกเขาส่วนมากจะถูกทารุณนับเป็นชั่วโมงก่อนที่จะถูกถลกหนังทั้งเป็น เหตุผลเพียงเพราะมนุษย์กลุ่มนั้นเชื่อว่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในขณะนั้นจะทำให้เนื้อสุนัขเกิดความอ่อนนุ่ม อร่อยขึ้น และที่เหี้ยมโหดที่สุดคือ สุนัขบางตัวยังไม่สิ้นใจด้วยซ้ำในขณะที่ขนและหนังบนร่างถูกถลกออกทั้งเป็น
มูลนิธิฯ กำลังดำเนินการในประเทศอื่น ๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อยุติการกระทำที่ทารุณและโหดร้ายนี้
ความเป็นมา

กฎหมายห้ามกระทำและลงโทษผู้ค้าเนื้อสุนัขและแมวในฟิลิปปินส์ประกาศใช้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2541 ภายใต้กฎหมายสวัสดิภาพสัตว์เพื่อยุติความทารุณ การปฏิบัติต่อสัตว์อย่างโหดร้าย การทิ้งสัตว์เลี้ยงและการฆ่าสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์เพื่อการบริโภค ในกฎหมายฉบับนี้ได้ระบุชัดเจนว่าการค้าเนื้อสุนัขเป็นการทารุณกรรม ซึ่งผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษทางกฎหมาย
ในกฎหมายเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัชบ้าในปีพ.ศ. 2550 ระบุชี้ชัด ความว่า “หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลสามารถลงโทษผู้ดำเนินการค้าเนื้อสุนัข” และยังได้รวมถึงบทลงโทษที่เพิ่มขึ้น ความว่า “บุคคลใดที่กระทำการค้าสุนัขโดยมุ่งหวังเนื้อสุนัขเพื่อการบริโภค ต้องถูกปรับไม่ต่ำกว่า 5,000 เปโซฟิลิปปินส์ต่อสุนัข 1 ตัว หรือถูกจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือทั้งจำและปรับ” อย่างไรก็ตาม มีสุนัขไร้เดียงสาราว ๆ 200,000 ตัวที่ตกเป็นเหยื่อในกระบวนการผิดกฎหมายที่แสนทารุณซึ่งยังคงเกิดขึ้น เมืองที่ยังคงพบการค้าเนื้อสุนัขจำนวนมากได้แก่ ลูซอน วิซายัส และมินดาเนา
ในปีพ.ศ. 2565 มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้ร่วมมือกับ Animal Kingdom Foundation (AKF) หน่วยงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์เพื่อเดินหน้ายุติการค้าเนื้อสุนัขที่นั่น ทั้งสององค์กรได้ร่วมมือกันเพื่อกวาดล้างธุรกิจผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายลงโทษผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง
ในเดือนกันยายนพ.ศ. 2565 ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ได้ถูกติดตั้งที่ใจกลางคาบานาตวน ศูนย์กลางเมืองลูซอน และมูลนิธิฯ มีแผนการที่จะติดตั้งป้ายทั่วประเทศ

การดำเนินงานของเราในปัจจุบัน
- นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมพ.ศ. 2565 มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย และAnimal Kingdom Foundation (AKF) ได้ร่วมมือกันยุติการค้าเนื้อสัตว์ที่ผิดกฎหมาย การทำงานมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าระวังผู้ค้าที่น่าสงสัย การบุกค้นสถานที่และช่วยเหลือสุนัข รวมถึงการดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดร่วมกับกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PNP) และตำรวจท้องที่
- สุนัขที่ได้รับการช่วยเหลือหลายสิบตัวได้รับการรับเลี้ยงจากพันธมิตรท้องถิ่นของเราอย่าง AKF
- แคมเปญสร้างความตระหนักรู้ของมูลนิธิฯ และพันธมิตรเกี่ยวกับการต่อต้านการค้าขายเนื้อสุนัขและแมวในระดับท้องถิ่น นำไปสู่การลดลงจำนวนมากของสถานประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการค้าเนื้อสุนัขและแมว
- แคมเปญนี้ผลักดันให้ชุมชนท้องถิ่นและเยาวชนสามารถรายงานการค้าเนื้อสุนัขและแมวในพื้นที่ของตนเองได้
- ปัจจุบันเรามุ่งเน้นไปที่การกำจัดสถานประกอบการค้าเนื้อสุนัขและแมวขนาดเล็กที่หลงเหลืออยู่ การเสริมสร้างการทำงานให้แก่หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด การฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการสำรวจผู้กระทำผิดเพื่อติดตามอาชีพในปัจจุบันของพวกเขา
ความเป็นมา
ในประเทศเวียดนาม คาดการณ์ว่ามีสุนัขกว่า 5 ล้านตัวและแมว 1 ล้านตัวที่ถูกชำแหละในแต่ละปีเพื่อการบริโภค ซึ่งมูลนิธิฯ กำลังร่วมกับรัฐบาลเวียดนามและสถานีโทรทัศน์ของเวียดนาม และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ระดับประเทศ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกแก่สาธารณะเรื่องความโหดเหี้ยมของธุรกิจการค้าเนื้อสุนัขและพิษภัยจากการบริโภคเนื้อสุนัข
ปัจจุบันเรายังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาการบริโภคเนื้อสุนัขและแมว โดยเฉพาะในเขตเมือง แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงผู้นำหรือการแพร่ระบาดของโรค อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในประเทศนี้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาองค์กรสวัสดิภาพสัตว์และหน่วยงานภาครัฐของเวียดนามทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง เพื่อแก้ไขปัญหาการค้าเนื้อสุนัขและแมว โดยมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ระดับประเทศเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการค้าที่โหดร้าย ปัจจุบันเวียดนามให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานระดับประเทศ เพื่อพัฒนากลยุทธ์สำหรับการแก้ปัญหานี้อย่างครอบครุมและมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นที่การดูแลสุขอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศในการขจัดโรคพิษสุนัขบ้าภายในปีพ.ศ. 2573
หน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานของเวียดนามกำลังดำเนินการร่วมกันอย่างมุ่งมั่น ในการสร้างกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาานสวัสดิภาพสัตว์และปัญหาด้านสาธารณสุขอย่างครอบคลุม แม้เส้นทางแห่งการต่อสู้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ทางภาครัฐยังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในการสำรวจวิธีการนำกฎระเบียบไปใช้ในเมืองหลักของประเทศ โดยใช้นโยบายสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก กลยุทธ์นี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงมาตรฐานทั้งด้านสวัสดิภาพสัตว์และสาธารณสุข พร้อมกับการก้าวไปสู้ประเทศผู้นำแห่งการแก้ปัญหานี้ในภูมิภาคเอเชีย
การดำเนินงานของเราในปัจจุบัน
- มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอยได้รับใบรับรองการจดทะเบียนการดำเนินงาน (ORC) ในประเทศเวียดนามเป็นระยะเวลาสามปี นับตั้งแต่เดือนตุลาคมพ.ศ. 2567 ซึ่งมูลนิธิฯ ใช้เวลา 6 เดือนสำหรับการออกใบอนุญาตการดำเนินงานดังกล่าวจากการสนับสนุนของผู้แทนรัฐสภา
- ตามคำแนะนำที่ได้จากสภาประชาชนแห่งชาติเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม คณะกรรมการร่างกฎหมายกรุงฮานอยได้มอบหมายให้กรมการเกษตรและการพัฒนาชนบทแห่งกรุงฮานอย รวมโรคพิษสุนัขบ้าและการค้าเนื้อสุนัขและแมวเข้าไว้ด้วยกันภายในภารกิจของกรมและออกคำสั่งให้ปฏิบัติตาม พร้อมทั้งกำหนดมาตรการสำหรับบังคับใช้
- กรมเกษตรและพัฒนาชนบทฮานอย ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์ ประมง และสัตวแพทย์บริการ ได้ออกคำสั่งที่ 333 เรื่อง "การดำเนินกิจกรรมเพื่อป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า และมุ่งสู่การยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวในกรุงฮานอย"
- คำสั่งดังกล่าวเป็นเอกสารทางกฎหมายฉบับแรกที่เรียกร้องให้ยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมว ส่งผลให้การเรียกร้องการยกเลิกการค้าเนื้อสุนัขและแมวในกรุงฮานอยของประเทศเวียดนามมีความสมบูรณ์มากขึ้น
- เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2566 มีการฝึกอบรมครูผู้สอนฝึกแพทย์แผนโบราณ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการค้าเนื้อสุนัขและแมว รวมถึงส่งเสริมวิธีป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในหมู่แพทย์และผู้ป่วย
- แคมเปญ "เพื่อนไม่ใช่ของกิน" กำลังดำเนินการร่วมร้านอาหารและร้านกาแฟชื่อดัง 500 ร้านทั่วกรุงฮานอย
- รายการทอล์คโชว์เกี่ยวกับโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนและการค้าเนื้อสุนัขและแมว ได้ออกอากาศในช่วงเวลาที่มีผู้ชมสูงสุดผ่านทางช่อง National Assembly TV ของประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นช่องสำหรับการสื่อสารอย่างเป็นทางการของสภาแห่งชาติเวียดนามต่อประชาชนซึ่งมีผู้ชมมากกว่า 3.5 ล้านคน โดยรายการนี้มีระยะเวลา 45 นาที และเป็นการกล่าวถึงประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการค้าเนื้อสุนัขและแมว
- มูลนิธิฯ กำลังทำงานร่วมกับสหภาพเยาวชนแห่งชาติกรุงฮานอย เพื่อตอบรับแนวทางและสร้างร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการค้าเนื้อสุนัขและแมว
- เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 มีการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพครูแกนนำเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้าและการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับค้าเนื้อสุนัขและแมวในโรงเรียนมัธยมศึกษา 16 แห่งในกรุงฮานอย โดยเป็นการผสมผสานข้อมูลความรู้เข้ากับหลักสูตรและกิจกรรมนอกหลักสูตร โครงการนี้มุ่งเน้นการให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับวิธีการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบ
- คณะกรรมการประชาชนแห่งกรุงฮานอย และกรมการปศุสัตว์และการพัฒนาชนบทแห่งกรุงฮานอย จะลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย เพื่อยุติการค้าเนื้อสุนัขและแมวอย่างสมบูรณ์ใน 5 เขตของกรุงฮานอยที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงนี้ในช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2568
- วัตถุประสงค์ของบันทึกความเข้าใจระยะเวลาสามปีฉบับนี้ ได้แก่ การประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการค้าเนื้อสุนัขและแมว การปิดสถานที่ฆ่าสัตว์และห่วงโซ่ของวงจรการค้าเนื้อสุนัขและแมว พร้อมทั้งการป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า การจัดอบรมและการฝึกอบรม (เพื่อพัฒนาทักษะ) ในอาชีพทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้าเนื้อสุนัขและแมว (ร่วมกับกรมแรงงาน)